สร้างแบรนด์โกอินเตอร์(เจาะตลาดจีน)ต้องรู้อะไรบ้าง

อยากเจาะตลาดจีน ต้องรู้อะไรบ้าง

พร้อมเหตุผลที่แบรนด์ต้องทำดิจิตอลมาร์เก็ตติ้ง เมื่อคนจีน เชื่อ ‘Influencer’ มากกว่า ‘เพื่อน

ตลาดจีนเป็นหนึ่งในเป้าหมายสำคัญที่นักการตลาดหรือแบรนด์ต่างๆ ต้องการเข้าไปเจาะตลาดให้ได้ ทั้งจากศักยภาพของขนาดประชากรที่มีมากถึง 1,420 ล้านคน โดยมีผู้ใช้งานอินเตอร์เน็ตสูงถึง 829 ล้านราย มากกว่าไทยราว 10 เท่า และเกือบ 100% ที่ใช้งานอินเตอร์เน็ตผ่านสมาร์ทโฟน ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางออกนอกประเทศในแต่ละปีก็มีสูงถึง 150 ล้านราย เติบโตขึ้นเกือบ 15% ซึ่งในการเดินทางแต่ละครั้ง มีจำนวนถึง 75% ที่ทำธุรกรรมต่างๆ ผ่านออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการหาข้อมูล จองตั๋วเครื่องบิน จองโรงแรม

อีกหนึ่งความโดดเด่นของจีนคือการเป็นประเทศที่การใช้งานโซเชียลมีเดียค่อนข้างสูง แค่ในช่วง 60 วินาที หรือแค่นาทีเดียวที่ผ่านไป แลนด์สเคปต่างๆ ในโลกออนไลน์ของจีนมีการเปลี่ยนแปลงมหาศาลไม่ว่าจะเป็น การใช้งาน Wechat ที่มีบทความต่างๆ ถูกโพสต์ถึง 486 เรื่อง การโพสต์ใน weibo 1.6 ล้านครั้ง ส่งแมสเซนเจอร์ผ่าน QQ 11 ล้านครั้ง  การจ่ายเงินผ่าน Alipay 15 ล้านหยวน หรือการเข้าไปรีวิวบนเถาเป่ากว่า 1.3 หมื่นครั้ง เป็นต้น

 

จะทำตลาดในจีน ต้องรู้อะไรบ้าง 

 

ภาพที่เกิดขึ้น เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้แบรนด์ หรือนักการตลาดที่ต้องการเจาะตลาดประเทศจีน จำเป็นต้องมีความเข้าใจในการทำ Digital Marketing อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดย คุณชฎากร ธนสุวรรณเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร AVG Thailand ผู้เชี่ยวชาญการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในประเทศจีน ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า แบรนด์ที่อยากประสบความสำเร็จในการเจาะตลาดประเทศจีน จำเป็นต้องให้ความสำคัญกับการทำดิจิทัล มารเก็ตติ้ง เพราะนอกจากเหตุผลข้างต้นนี้แล้ว ยังมีอีกหลายความจำเป็นที่ต้องทำความเข้าใจ เช่น

 

1. ขนาดของตลาดในประเทศจีนที่ค่อนข้างใหญ่ และไม่ได้มีเพียงแค่ตลาดเดียวเท่านั้น

 

เนื่องจาก ผู้บริโภคที่มีจำนวนมาก และมีความแตกต่างกันไปตามภูมิภาค ซึ่งแต่ละกลุ่มจะมีความต้องการที่ไม่เหมือนกัน ดังนั้น นอกจากความเข้าใจตลาดจีนแล้ว ยังต้องเข้าใจลักษณะและความแตกต่างของคนในแต่ละพื้นที่ด้วย เพื่อให้ทำตลาดได้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ เช่น สินค้ากลุ่มสกินแคร์ ที่แม้ว่าจะเป็นครีมตัวเดียวกัน แบรนด์เดียวกัน แต่ผลตอบรับจากแต่ละภาคกลับแตกต่างกัน ทั้งจากลักษณะผิวที่แตกต่างกันของคนในแต่ละภาค รวมไปถึงลักษณะอากาศและการใช้ภาษาที่ไม่เหมือนกัน

2. การทำ Marketing ในจีนก้าวไปอยู่บนสมาร์ทโฟนแล้ว

 

ปี 2018 ที่ผ่านมา การใช้จ่ายซื้อสินค้ารีเทลต่างๆ ของผู้บริโภคคนจีนกว่า 25% เกิดขึ้นบนออนไลน์ หรือคิดเป็นมูลค่าเกือบ 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ เกิดขึ้นบนสมาร์ทโฟน เนื่องจาก จีนเป็นฐานสำคัญในการผลิตสมาร์มโฟน รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีและการใช้งาน Mobile Internet ในระดับสูง ขณะที่การพัฒนาแพลตฟอร์มต่างๆ ให้รองรับทุก Journey ในการซื้อสินค้า เช่น Wechat ที่ลูกค้าสามารถทำได้ตั้งแต่การเลือกดูสินค้า ดูรีวิว ไปจนถึงการชำระสินค้า ขณะที่ในไทยหรือประเทศอื่นๆ อาจจยังอยู่กันคนละแพลตฟอร์ม

 

3. Social Shopping กำลังเข้ามามีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในอนาคต

 

แม้แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในจีน จะค่อนข้างมีความแข็งแรง แต่การช้อปปิ้งผ่านโซเชียลมีเดีย ก็กำลังเข้ามามีความสำคัญเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ในจีน ทั้งจากจำนวนการใช้โซเชียลมีเดียของคนจีนที่สูงระดับโลก รวมทั้งพฤติกรรมนักช้อปจีน ที่จะนิยมทำการบ้านก่อนซื้อ ทั้งการดูรีวิว อ่านคอมเม้นต์ผู้ใช้งานจริง และเป็นการดูเชิงลึก ไปจนถึงว่า Influencers แต่ละรายเป็นใคร โดยค่าเฉลี่ยในการหาข้อมูลก่อนสูงถึง 60-70% ขณะที่ค่าเฉลี่ยของคนทั่วโลกอยู่ที่ราว 30% โดยแหล่งข้อมูลสำคัญของคนจีนก็อยู่บนโซเชียลมีเดีย เป็นเหตุผลให้โซเชียลมีเดียในจีนเติบโตได้ในระดับสูง

4. เรื่องของการสร้างความน่าเชื่อถือของแบรนด์ มีความสำคัญอย่างมากสำหรับผู้บริโภคชาวจีน

 

แบรนด์ที่จะทำตลาดในประเทศจีน จึงจำเป็นต้องสร้าง Reputation ไม่ว่าจะขายผ่านออฟไลน์ หรือออนไลน์ แต่สุดท้ายแล้วทุกอย่างจะลิงก์ถึงกันหมด  ดังนั้น การทำแบรนดิ้งให้แข็งแรงด้วยดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง จะทำให้เข้าถึงผู้บริโภคจีนในภาพกว้างได้ รวมทั้งช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นในเรื่องของคุณภาพสินค้าของแต่ละแบรนด์

 

5. ลักษณะการช้อปปิ้งในอนาคตที่จะต้องมีความเป็น Omni-channel มากขึ้น

 

ด้วยรูปแบบการช้อปปิ้งในปัจจุบัน ที่ต้องเชื่อมโยงกันระหว่าง Online และ Offline โดยเฉพาะในจีนที่เกิดขึ้นเยอะมาก และในหลากหลายธุรกิจ โดยตลาดจีน ถือเป็นประเทศที่ใช้บริการ  Food on Demand สูงที่สุดในโลก รวมทั้งยังกระจายออกไปในบริการอื่นๆ เช่น ซักผ้า ล้างรถ และในหลายๆ บริการที่เริ่มเข้ามาสู่รูปแบบ O2O มากขึ้น

คนจีนฟัง Influencer มากกว่า “เพื่อน”  

 

เมื่อเข้าใจถึงความสำคัญของดิจิทัล มาร์เก็ตติ้งในจีนแล้ว การเลือกเครื่องมือมาใช้ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดก็เป็นเรืองสำคัญ โดยเฉพาะเทรนด์ที่กำลังมาแรงในตลาดจีน ได้แก่ Influencers Marketing และ Social Commerce

 

สำหรับ Influencer Marketing  ต้องถือว่าเป็นกลยุทธ์สำคัญในการทำตลาดในจีน เพราะตามข้อมูลวิจัยของ Frost & Sullivan ระบุตัวยอดขายที่เกิดจาก Influencers มีสูงถึง 32.9 พันล้านหยวน (4.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2017 โดยคาดว่าจะเติบโตต่อเนื่องได้อีกมากกว่า 40% ในช่วง 5 ปีจากนี้ ประกอบกับ 80% ของแฟนคลับที่ติดตาม Influencer นั้นเป็นกลุ่มคนยุคมิลเลนเนียมหรือคนที่เกิดในช่วงปี ค.. 1981 ถึง 1996 (อายุ 23-38 ปีซึ่งเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสูงที่สุดในประเทศจีน

 

ขณะที่พฤติกรรมของคนจีนเองจะให้ความสำคัญกับ Influencers อย่างมาก เนื่องจากขนาดตลาดที่ค่อนข้างใหญ่ทำให้มีข้อมูลจำนวนมาก แต่ผู้บริโภคไม่ชอบฟังข้อมูล Official จากแบรนด์ จึงเลือกที่จะหาข้อมูลจาก Influencers เป็นหลัก โดยจำนวน Influencers ในจีนมีมากถึง 2-3 ล้านคน และมีพัฒนาการมาเป็นสิบปี ซึ่งจะมีทั้งกลุ่มที่เป็นดาราและคนทั่วไป โดยกลุ่มที่ได้รับความนิยมแม้จะไม่ใช่ดารา แต่ก็มีคนตามเป็นหลักสิบล้านคนเช่นกัน

ทั้งนี้ ความน่าเชื่อถือของ Influencers ในจีนค่อนข้างสูงมาก เพราะในตลาดอื่นๆ รวมทั้งในไทย ผู้บริโภคเลือกที่จะเชื่อเพื่อนหรือคนใกล้ตัว แต่ในจีนคนเลือกที่จะฟังและเชื่อ Influencer มากกว่าเพื่อนด้วยซ้ำ หนึ่งในตัวอย่างของความทรงอิทธิพลของ Influencers เมื่อ Becky Li เจ้าแม่แฟชั่นและคนจีนมองว่าเป็น Trendsetter ที่สามารถทำให้รถแบรนด์หรูอย่าง Mini ที่ราคาหลักล้าน สามารถขายได้ถึง 100 คัน ในเวลาเพียง 5 นาที เมื่อเธอส่งสัญญาณว่า “สีฟ้า” กำลังมา และเมื่อรถยนต์มินิ ออกลิมิเต็ดสีเดียวกับที่กำลังเป็นเทรนด์ก็ทำให้ได้รับการตอบรับอย่างถล่มทลายดังกล่าว

 

การที่คนจีนไม่เชื่อเพื่อน เนื่องจาก มองว่าเพื่อนไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญ มีความรู้ไม่เท่า Influencers ประกอบกับข้อกฏหมายที่นำมาควบคุมการทำตลาดในจีนค่อนข้างแรง ทำให้ Influencers ส่วนใหญ่ไม่กล้าพูดเรื่องไม่จริง รวมทั้งฝั่งของ Influencers เองก็ต้องพยายมรักษาความน่าเชื่อถือของตัวเองเช่นกัน ทำให้ค่อนข้างระมัดระวังในการรีวิวหรือพูดถึงสินค้าต่างๆ ขณะที่การหาข้อมูลหรือเลือกที่จะฟังของคนจีน จะมองไปถึงความน่าเชื่อของ Influencers แต่ละราย มากกว่าแค่จำนวนผู้ติดตาม แต่ดูไปถึงคอมเม้นต์หรือการเข้า Engage กับผู้ที่มาคอมเมนต์ของ Influencers แต่ละคนด้วย โดยกลุ่มสินค้าที่มี Influencers มากที่สุด อยู่ในกลุ่ม Beauty 30% ตามมาด้วยกลุ่มสินค้า Fashion 15% และ Snack 10%”

                      

โรงงานผลิตเครื่องสำอาง เราได้รับมาตรฐาน GMP จาก อย. คุณสามารถส่งสินค้าออกไปขายได้ทั่วโลกโทรมาปรึกษาเราสิค่ะ ยินดีให้คำปรึกษาเรื่องการสร้างแบรนด์ครีม สร้างแบรนด์เครื่องสำอาง หรือสร้างแบรนด์อาหารเสริม ผลิตเครื่องสำอางทุกประเภท ตั้งแต่แชมพู ครีมสำหรับผิวหน้า ครีมทาหน้าอก ครีมทาทรวงอก ครีมทาฝ้า ครีมหน้าขาวใส ครีมสำหรับผิวกาย ไปจนถึงครีมสำหรับมือและเท้า ด้วยราคาเครื่องสำอางที่ท่านกำหนดได้ และ คุณภาพเครื่องสำอางครีม ดีที่สุด หรือจะเลือกจากสูตรครีมของโรงงานเรา มีให้เลือกมากกว่า 1000 สูตร เครื่องสำอางผลิตโดยโรงงานเครื่องสำอางมาตรฐาน GMP ไม่มีสารเคมีอันตรายสามารถทำแบรนด์เครื่องสำอางได้ตั้งแต่ 1 กิโลกรัม สั่งมาก ถูกมาก สั่งน้อย ก็เริ่มต้นเป็นเจ้าของแบรนด์ เริ่มต้นสร้างแบรนด์ได้แล้ว

นอกจากการเป็นโรงงานผลิตครีม โรงงานผลิตเครื่องสำอาง โรงงานผลิตอาหารเสริมแล้ว บริษัท บอร์นทร้าส์ มีบริการให้คำปรึกษาด้านการตลาด การส่งออกต่างประเทศไว้บริการคุณลูกค้าด้วยนะคะ

ติดต่อได้ที่
Call Center 02-030-9988
Line ID : @borntras (อย่าลืมพิมพ์@นะคะ)
Facebook : www.facebook.com/borntras
Website : www.FactoryCosmetic.com
เปิดทำการ จันทร์ – เสาร์  หยุดวันหยุดนักขัตฤกษ์

บริษัท บิวตี้เวลล์ เอ็กซ์เพิร์ท, Beautywell Expertรับผลิตครีมผลิตครีมรับผลิตแบรนด์ครีมโรงงานผลิตครีมโรงงานผลิตครีมขายส่งบริษัทรับผลิตครีมสร้างแบรนด์ครีมทำครีมแบรนด์ตัวเองรับผลิตแบรนด์ครีมโรงงานผลิตครีมหน้าใสแล็ปผลิตครีมผลิตครีมหน้าขาวใสรับผลิตครีม โรงงานผลิตครีม ผลิตสบู่ รับผลิตครีม,โรงงานผลิตเครื่องสำอางผลิตครีมโรงงานผลิตครีมผลิตเครื่องสำอางบริษัทผลิตเครื่องสำอาง, cosmetic manufacturer, โรงงานผลิตครีมขายส่งโรงงานผลิตเครื่องสําอางค์ผลิตเครื่องสำอางค์, manufacturer cosmetic, ผลิตครีมกิโลโรงงานผลิตครีมหน้าใสผลิตครีมเป็นกิโลผลิตเวชสําอางค์, cosmetic manufacturer thailand, โรงงานผลิตครีมผิวขาวบริษัทผลิตเครื่องสำอางค์โรงงานผลิตครีมหน้าขาว ,โรงงานผลิตครีม โรงงานผลิตอาหารเสริม ,โรงงานผลิตเครื่องสำอางค์ โรงงานผลิตเวชสำอาง โรงงานผลิตสบู่ ผลิตสบู่ ,ผลิตครีมผิวขาว,ผลิตครีมกิโล ,ผลิตครีมขายส่ง สร้างแบรนด์ครีม ,สร้างแบรนด์สินค้าส่งออก สร้างแบรนด์เครื่องสำอางค์ จดแจ้ง อย. ฟรี ครีมขายส่ง ครีมผิวขาว ครีมหน้าใส ครีมลดกระฝ้า ,ครีมลดสิว ,สบู่ผิวขาว ,สบู่กลูต้า ,ผลิตยาสีฟัน ,ผลิตแชมพู ผลิตครีมอาบน้ำรับผลิตครีม รับสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง ขายส่งครีมราคาโรงงาน ออกแบบสติ๊กเกอร์ จำหน่ายบรรจุภัณฑ์รับผลิตครีมกิโลราคาเริ่มต้นที่80-1000บาท พร้อมสร้างแบรนด์ จด อ.ย รับผลิตเครื่องสำอาง สร้างแบรนด์เครื่องสำอาง จัดเซตครีม,เวชสำอาง ที่ปรึกษาการตลาดจนสำเร็จ รับสร้างแบรนด์เครื่อง สำอาง เวชสำอาง อาทิเช่น ผลิตโลชั่น ผลิตสบู่ ผลิตครีมขาว ผลิตครีมลดสิว ครีมลดกระ ฝ้า สครับ ครีมกันแดด  แป้งฝุ่น จัดเซตครีม โฟมล้างหน้า อื่นๆ ผลิตโดยเภสัชกร และนักวิทยาศาสตร์เครื่องสำอางโดยเฉพาะ บริการ จดแจ้ง อย. พร้อมรับปรึกษาการตลาด รับจ้างผลิตเครื่องสำอาง (OEM) จดแจ้ง อย ผลิตครีมลดสิว ผลิตครีม ขาวใส รับผลิตเครื่องสำอาง ทุกชนิด ราคาถูก เราเป็น โรงงานผลิตเครื่องสำอางโรงงานผลิตเวชสำอาง ทุกชนิด รับสร้างแบรนด์สินค้า เวชสำอาง เครื่องสำอาง เมคอัพ ทุกชนิด จดแจ้ง อย. “ลงทุนหลักหมื่นกำไรหลักแสน ลงทุนหลักแสน กำไรหลักล้าน” รับผลิตครีม พร้อมสร้างแบรนด์สินค้า ผลิตเวชสำอาง สร้างแบรนด์ครีม ผลิตยาสีฟัน ผลิตของใช้ในโรงแรม ผลิตครีมขาวใส เมคอัพ ความงามบอร์นทร้าส์, Borntras, โรงงานรับผลิตครีม, โรงงานรับผลิตอาหารเสริม, โรงงานรับผลิตเครื่องสำอาง, รับผลิตครีม, รับผลิตอาหารเสริม, รับผลิตเครื่องสำอาง

โรงงานผลิตครีม, โรงงานผลิตอาหารเสริม, โรงงานผลิตเครื่องสําอาง, รับสร้างแบรนด์ครีม, รับสร้างแบรนด์อาหารเสริม, รับสร้างแบรนด์เครื่องสำอาง, ผลิตครีม 

ผลิตอาหารเสริม, ผลิตเครื่องสำอาง, สร้างแบรนด์ครีม, สร้างแบรนด์อาหารเสริม, สร้างแบรนด์เครื่องสำอาง, ครีม, อาหารเสริม, เครื่องสำอาง, โรงงานครีมมาตรฐาน, ครีมมาตรฐาน 

ปรึกษาฟรี!! ติดต่อได้ที่

สนใจผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร หรือผู้ที่ต้อการมีแบรนด์เป็นของตัวเอง ตลอดจนบริษัทยังมีบุคลากรที่ชำนาญเฉพาะทาง ที่พร้อมให้คำปรึกษา และเครื่องมือที่ทันสมัย พร้อมสร้างผลิตภัณฑ์ให้ท่าน อย่างมีคุณภาพ ครบครัน ตั้งแต่ต้นจนจบ

ติดต่อ Call Center : 02-030-9988

English EN Thai TH
Scroll to Top